บทที่ 6 3.1 ผู้มีวาสนาเท่านั้นที่คู่ควร

‘นับจากนี้ไป ฉันจะเป็นจางอวิ๋นซีคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมแน่นอน’ เซียวเหม่ยฉียิ้มขณะคิดในใจ

หรูหรงกล่าวกับไท่ฮูหยินด้วยสีหน้าระคนตกใจกลัว

“ไท่ฮูหยิน ฮูหยินเอกเจ้าคะ คุณหนูจำไม่ได้แม้กระทั่งข้าน้อยเลยเจ้าค่ะ” หรูหรงกล่าวสีหน้าของนางรู้สึกหวาดกลัวระคนเสียใจ นางกลัวว่าคุณหนูของนางอาจจะได้รับผลกระทบจากพิษไข้จนเสียสติไปเลยก็ได้

“จริงหรือซีเอ๋อร์ แม่จะให้ท่านหมอมาตรวจอาการเจ้าดีหรือไม่?” จางฮูหยินถามอย่างร้อนใจ จางอวิ๋นซีจึงปัดมือกล่าวตอบ

“ไม่ๆ ไม่ต้องเจ้าค่ะท่านแม่ คือ...คือข้าสบายดี ไม่ได้เป็นอะไร” เนื่องจากเธอเคยดูหนังจีนกำลังภายในและหนังแนวย้อนยุคมาเยอะยามว่างจากการเข้าเวรที่โรงพยาบาล เธอจึงพอจำบุคลิกของตัวละครหญิงที่ทะลุมิติมาได้บ้างว่าควรต้องทำอย่างไร แต่เธอเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะมาเกิดขึ้นกับเธอ

“หลานแน่ใจนะซีเอ๋อร์ ย่าไม่สบายใจเลยนับตั้งแต่หลานหายตัวไป” ไท่ฮูหยินกล่าวกับนางด้วยสีหน้ากังวล จางอวิ๋นซีเม้มปากเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะสวมบทบาทเป็นจางอวิ๋นซีคนใหม่

จางอวิ๋นซีจับมือของไท่ฮูหยินกับฮูหยินเอก พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้กับ

ทั้งสองอย่างสดใส “ท่านแม่ ท่านย่า อย่าห่วงไปเลยนะเจ้าคะ ข้าสบายดี ปลอดภัยหายห่วงค่า”

ท่าทีที่แปลกไปของจางอวิ๋นซีทำให้ไท่ฮูหยินกับจางฮูหยินเริ่มกังวลหนักกว่าเดิม เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นสตรีที่พูดน้อยคำ วาจาสงบเสงี่ยม กิริยาสำรวมนัก แต่ยามนี้จางอวิ๋นซีนั้นแปลกไปนับตั้งแต่หายตัวไปคราวนั้น นางก็ไม่เหมือนเดิมอีก

“ข้าว่าเราให้ท่านหมอมาตรวจคุณหนูอีกครั้งดีไหมเจ้าคะ” หรูหรงเสนอ ตอนนี้เจ้านายของนางแปลกไปจากเดิมมาก จากคุณหนูที่พูดน้อยแทบนับคำ กิริยาวาจาสำรวมอ่อนหวาน ใบหน้ามีแต่ความเศร้าหม่นปรากฏ แต่บัดนี้กลับเป็นราวคนละคน มีทั้งอารมณ์ดีและร่าเริง พูดเยอะกว่าเดิม อีกทั้งยังมีน้ำเสียงที่ประจบเอาใจมารดากับไท่ฮูหยินนัก หรูหรงอดคิดถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันแบบนี้ไม่ได้จริงๆ

“ฉันบอกว่าฉันไม่เป็นไรน่ะ” จางอวิ๋นซีคนใหม่ปฏิเสธพลางโบกมือไปมาเบาๆ

“แต่แม่ว่าให้หมอมาตรวจอาการเจ้าหน่อยก็ดีนะ แม่กับท่านย่าจะได้สบายใจ” จางฮูหยินมีสีหน้าและน้ำเสียงเป็นกังวลนัก

ก็ฉันนี่ล่ะที่เป็นหมอ...จางอวิ๋นซีคิด

“นั่นสิ ฟังแม่เจ้าหน่อยนะ ย่าจะได้สบายใจด้วย” ไท่ฮูหยินกล่าวเสริมอีกแรง จางอวิ๋นซีจึงยอมทำตาม จากนั้นจางฮูหยินจึงสั่งให้บ่าวของตนเองไปตามหมอประจำจวนมาตรวจดูอาการของจางอวิ๋นซีอีกครั้ง

หลี่ฮูหยินเดินทางมาเยี่ยมจางอวิ๋นซีที่เรือนพร้อมกับจางเซียวหรู พวกนางทั้งสองแม่ลูกยังคงแต่งกายงดงามชดช้อยมิได้สนใจสิ่งใด อีกทั้งใบหน้านั้นยังแสดงถึงความทะนงเย่อหยิ่งเช่นเดิม เมื่อพวกนางทั้งสองเดินเข้ามาถึงห้องนอนของจางอวิ๋นซี จากที่ควรดีใจที่อาการอีกฝ่ายดีขึ้น แต่กลับมีความตกใจเท่านั้น

หลี่ฮูหยินรีบเก็บซ่อนอารมณ์ทางสีหน้าอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับจาง

เซียวหรู

“เอ่อ ข้าได้ข่าวว่าน้องหญิงฟื้นแล้ว เลยชวนท่านแม่รองมาเยี่ยมนาง” จางเซียวหรูแสร้งกล่าวด้วยความห่วงใย จางอวิ๋นซีที่รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของสองแม่ลูกผู้มาใหม่ นางกระซิบถามหรูหรง แต่ทว่าไท่ฮูหยินกลับได้ยินที่พวกนางสนทนากัน

“หรูหรง พวกนางเป็นใครหรือ?”

หรูหรงกระซิบบอก “พวกนางคือสองแม่ลูกที่อิจฉาและรังแกคุณหนูมาตลอดเจ้าค่ะ นางผู้นั้นคือฮูหยินรอง ส่วนอีกคนเป็นพี่สาวท่านเจ้าค่ะ นางชื่อจางเซียวหรู”

‘ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ยัยสองคนนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการตายของเธอก็ได้นะ จางอวิ๋นซี’ เซียวเหม่ยฉีคิดในใจ สายตาของนางจับจ้องที่สองแม่ลูกไม่วางตา

“น้องหญิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” จางเซียวหรูเดินเข้ามาหา นางนั่งแทรกตรงกลางเข้ามา จับมือของจางอวิ๋นซีขึ้นมากุมอย่างถือวิสาสะ หรูหรงที่ยืนอยู่ตรงนั้นแทบสะอิดสะเอียนกับท่าทีเช่นนี้ที่แสดงออกมา ส่วนจางอวิ๋นซีเองก็จ้องอีกฝ่ายอย่างไม่วางใจนัก นางรู้สึกได้กลิ่นตุๆ จากจางเซียวหรูผู้นี้เหลือเกิน

จางอวิ๋นซีชักมือกลับอย่างรวดเร็ว นางกล่าวอย่างสุภาพกับผู้มาเยือนใหม่

“ข้าเจ็บป่วยเช่นนี้ ลำบากพี่หญิงกับฮูหยินรองมาเยี่ยมแล้ว” หญิงสาวกรีดยิ้มอ่อนหวานอย่างไม่จริงใจนักให้อีกฝ่าย ซึ่งเป็นพี่สาวต่างมารดา

“ข้านึกว่าท่านจะดีใจที่คุณหนูหายไปเสียอีก” บ่าวรับใช้ของไท่ฮูหยินกล่าวขึ้นมาอย่างรังเกียจ จางเซียวหรูนั้นเป็นที่รู้นิสัยกันดีว่าเป็นเช่นไร แต่ทว่าจางเยี่ยนนั้นก็ยังปักใจรักแต่บุตรีกับภรรยารองผู้นี้จนลืมเลือนความถูกผิดไป อีกทั้งสองแม่ลูกผู้นี้ยังมีพฤติกรรมน่าระอายิ่งนัก

“แต่ก็ดีแล้วล่ะที่เจ้าหายดี แม่รองมาเยี่ยมเจ้าก็เกรงว่าเจ้าจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้เสียอีก” น้ำเสียงของฮูหยินรองนั้น จางอวิ๋นซีจับได้ว่าเป็นการประชดประชันในความผิดหวังของพวกนาง แค่มองตาก็พอรู้ว่าจาง อวิ๋นซีต้องเจอกับอะไรมาบ้าง

ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีเถอะนะจางอวิ๋นซี อย่าได้เกิดมาเจอคนพรรค์นี้อีกเลย ฉันจะแก้แค้นแทนเธอเอง ฉันสัญญา...

“เก็บความห่วงใยของท่านแม่รองไปเถิดเจ้าค่ะ ความห่วงใยที่มาจากความเสแสร้ง ข้าไม่อยากรับ” จางอวิ๋นซีประกาศออกไปตรงๆ เซียวเหม่ยฉีต้องการให้พวกนางทั้งสองแม่ลูกนั้นรับรู้ว่า จางอวิ๋นซีคนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นคนใหม่ที่มาพร้อมกับความแค้นของคนเดิม และนับจากนี้ถ้าหากพวกนั้นกล้าหาเรื่องกลั่นแกล้งเธอ เธอสาบานได้เลยว่าจะเอาคืนให้สาสมกับบาปกรรมที่ก่อ บาปกรรมที่มีส่วนให้สตรีผู้

หนึ่งต้องตายอย่างน่าสงสาร!

หลี่ฮูหยินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่งเมื่อจางอวิ๋นซีตอบกลับมาเช่นนี้ ไท่ฮูหยินกับจางฮูหยินเองก็นิ่งไปอึกหนึ่งเช่นกัน แต่จากนั้นทั้งสองก็มิได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีกเลย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป